5/30/2560

เสริมสวยและความงาม

ผู้ที่ประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา แต่ต้องมีฝีมือ และมีใจรักอาชีพบริการเสริม ความงามให้กับลูกค้า และควรมี คุณสมบัติขั้นต้นและการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
1. เข้าอบรมหลักสูตรเสริมสวยระยะสั้นจากโรงเรียนเสริมสวยที่มีชื่อเสียง 6 เดือน
2. ควรเข้ารับการฝึกหาประสบการณ์ โดยการเป็นพนักงานหรือลูกจ้างในร้านเสริมสวยประมาณ 6 เดือน -1 ปี
3. เป็นคนอ่อนน้อม มีมารยาท รู้จักกาลเทศะ และรู้จักเอาใจผู้ใช้บริการ
4. เป็นคนขยัน มีความอดทน และมีความภูมิใจในอาชีพ
ผู้ที่จะประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้คือ : สามารถเข้ารับการอบรมจากสถาบันเสริมสวยที่มีชื่อเสียง ซึ่งนักเรียนไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ค่าเรียนหลักสูตรเสริมสวย ระยะเวลา 6 เดือน ประมาณ 12,000 บาท ซึ่งจะสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น ม้วนผม ตัดผม ตกแต่งทรงผม รักษาเส้นผม นวดหน้า เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับประกาศนียบัตร และสามารถนำมาประกอบอาชีพในอาชีพ ช่างเสริมสวยได้ เช่น ช่างแต่งผม ช่างตัดผม และช่างแต่งหน้าได้
โอกาสในการมีงานทำ
  ตลาดแรงงานสำหรับผู้ที่สนใจประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ยังเปิดกว้าง ร้านเสริมสวยแบ่งออกเป็นหลายประเภท และหลายระดับ เพื่อบริการกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามสภาพเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มแม่บ้าน นอกจากนี้ วัยรุ่นทั้งหญิงชายหันมาให้ความสนใจ ในเรื่องการตกแต่งแบบผมกันเป็นจำนวนมากขึ้น และเข้ารับการดัดแปลงกันเป็นประจำเพื่อให้ก้าวทันตามแฟชั่นจากต่างประเทศ
ทัศนคติของผู้ใช้บริการด้านเสริมสวยในปัจจุบันค่อนข้างเปลี่ยนไปคือเข้ารับการบริการเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และนอกจากใช้บริการตกแต่งความสวยงามของทรงผม ยังมารับบริการเสริมความงามต่างๆ ที่สถานเสริมสวยบริการไว้ครบวงจร เช่น นวดหน้า ขัดผิวพรรณด้วยสมุนไพร ด้วยกลิ่นหอม อาบน้ำนม อบไอน้ำ นวดตัว แต่งหน้า ให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ผู้รับปริญญา นอกจากนี้ ช่างผมสตรีสามารถตัดผม ให้สุภาพบุรุษได้ด้วย ในวัยรุ่นชายก็เข้ารับการตัดผมดูแลผมจากร้านเสริมสวยที่วัยรุ่นหญิงใช้บริการเช่นกัน ในทำนองเดียวกัน ช่างผมบุรุษได้ทำงานเป็นช่างตัดแต่งผมให้แก่ผู้ใช้บริการที่เป็นสตรีกันมากขึ้น และอยู่ในความนิยม ดังนั้น บุรุษก็สามารถทำงานเป็นช่างตัดแต่งผมสตรีได้
ปัจจุบันร้านเสริมสวยครบวงจรได้ขยายการเปิดในทำเลธุรกิจ เช่น ในอาคารสำนักงานให้เช่า และที่อยู่อาศัยคอนโดมีเนียม บริเวณโรงแรม บริเวณซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ที่ทำธุรกิจหรือพนักงานขององค์กรเหล่านั้น ทำให้ความต้องการทางด้านปริมาณของช่างเสริมสวย ขยายตัวมากขึ้น
โดยทั่วไปจำนวนช่างเสริมสวยที่ต้องการในร้านเสริมสวยขนาดกลาง อาจต้องการประมาณ 5 คน ขึ้นไป ส่วนในร้านขนาดใหญ่ อาจต้องการช่างมากกว่า 10 คนขึ้นไป และร้านเสริมสวยต่างต้องหา ช่างเสริมสวยมาหมุนเวียนทดแทน ผู้ออกไปทำงานให้แก่ร้านเสริมสวยแห่งอื่นหรือไปเปิดกิจการของตนเองตลอดเวลา แต่บางรายก็อาจหมุนเวียนกลับมาอีก เนื่องจากอาชีพช่างเสริมสวยเป็นอาชีพที่หางานทำได้ไม่ ยากนัก และถ้าหากมีฝีมือเป็นที่นิยมของลูกค้า ก็จะถูกชักชวนจากเจ้าของกิจการและได้รับค่าจ้างสูง แต่ช่างเสริมสวยต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมและติดตามความเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สามารถบริการได้ถูกใจลูกค้า
นอกจากนี้ในโรงเรียนหรือสถาบันสอนเสริมสวยที่มีชื่อเสียง นักเรียนเสริมสวยที่เรียนสำเร็จแล้ว จะได้รับการจองตัวจากร้านเสริมสวย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไปเป็นพนักงานหรือช่างประจำร้าน
ในกรณีที่ต้องการเปิดกิจการเสริมสวยด้วยตนเอง อาจใช้บ้านเป็นร้านเสริมสวย ซึ่งใช้งบประมาณ ตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป ถ้าร้านเสริมสวยขนาดเล็กถึงกลางที่มีช่างเสริมสวยหลายคนอาจใช้งบประมาณในการ จัดร้านประมาณ 1 - 2 แสนบาท และสามารถได้เงินคุ้มทุนเร็วซึ่งขึ้นอยู่กับความขยัน การบริการ และฝีมือของช่างเสริมสวย
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
  ผู้ประกอบช่างเสริมสวย-Beauticianถ้ามีฝีมือ และพัฒนาฝีมือของตนเองตลอดเวลา อาจพัฒนาตนเองเป็น ช่างเสริมสวยประจำสตูดิโอ กองถ่ายภาพยนตร์ หรืองานแสดงแบบเสื้อ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนค่อนข้างสูง
ช่างเสริมสวยผู้มีความสามารถ ขยัน อุปนิสัยดี จะเป็นเจ้าของกิจการของตนเองได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยการเลือกหาทำเลในการเปิดร้านที่เหมาะสม หรืออาจเปิดร้านในหมู่บ้านและปฏิบัติงานเพียงคนเดียวก็ได้หรือเปิดโรงเรียนเสริมสวยของตนเอง ซึ่งมีช่างเสริมสวยที่ประสบความสำเร็จในช่างเสริมสวย-Beautician เป็นจำนวนมาก
ช่างเสริมสวยไม่ควรหยุดนิ่ง ควรหาเทคนิคใหม่เกี่ยวกับการเสริมสวยที่ทันสมัย มาบริการลูกค้า อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจูงใจลูกค้าให้มาใช้บริการเป็นการประจำ
อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
  ผู้ประกอบช่างเสริมสวย-Beauticianถ้ามีฝีมือ และพัฒนาฝีมือของตนเองตลอดเวลา อาจพัฒนาตนเองเป็น ช่างเสริมสวยประจำสตูดิโอ กองถ่ายภาพยนตร์ หรืองานแสดงแบบเสื้อ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนค่อนข้างสูง
ช่างเสริมสวยผู้มีความสามารถ ขยัน อุปนิสัยดี จะเป็นเจ้าของกิจการของตนเองได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยการเลือกหาทำเลในการเปิดร้านที่เหมาะสม หรืออาจเปิดร้านในหมู่บ้านและปฏิบัติงานเพียงคนเดียวก็ได้หรือเปิดโรงเรียนเสริมสวยของตนเอง ซึ่งมีช่างเสริมสวยที่ประสบความสำเร็จในช่างเสริมสวย-Beautician เป็นจำนวนมาก
ช่างเสริมสวยไม่ควรหยุดนิ่ง ควรหาเทคนิคใหม่เกี่ยวกับการเสริมสวยที่ทันสมัย มาบริการลูกค้า อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจูงใจลูกค้าให้มาใช้บริการเป็นการประจำ
แหล่งข้อมูลอื่น ๆ


  โรงเรียนและสถาบันเสริมสวยที่มีชื่อเสียงและกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยาฐานะ ร้านเสริมสวยต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น โรงเรียนเสริมสวยเกสรี การจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย)
วิชา อีคอมเมอร์ส